อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
ตั้งอยู่ที่อำเภอภูกระดึงในจังหวัดเลย เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทย เนื่องจากมีธรรมชาติที่สวยงาม ในแต่ละปีจึงมีคนมาเที่ยวเฉลี่ยหลายหมื่นคน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวมักมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปพักผ่อนบนภูกระดึงจำนวนมาก ภูกระดึงได้รับการจัดตั้งเป็นป่าสงวนแห่งชาติในปี พ.ศ. 2486 และเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2502 โดยเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่สองถัดจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
อุทยานตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ครอบคลุมพื้นที่ 348.12 ตารางกิโลเมตร (217,575 ไร่) ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด โดยมีที่ราบบนยอดภูกระดึง ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร (37,500 ไร่) มีความสูงอยู่ระหว่าง 400-1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตร
ภูมิประเทศ

ภูกระดึงเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของที่ราบสูงโคราช ใกล้กับด้านลาดทางทิศตะวันออกของเทือกเขาเพชรบูรณ์ พื้นที่ส่วนใหญ่ของภูเขามีความสูงจากระดับน้ำทะเล 400-1,200 เมตรส่วนฐานหรือเชิงเขาเริ่มจากจุดต่ำสุดของพื้นที่ที่ระดับความสูง 260 เมตรไปจนถึงระดับความสูง 400 เมตร มีลักษณะเป็นที่ราบเชิงเขาล้อมรอบตัวภูกระดึง และพื้นที่ที่อยู่ในระดับที่สูงขึ้นมีสภาพลาดชันยกตัวขึ้นเป็นขอบเขาและหน้าผาสูงชัน[4] พื้นที่ราบบนยอดตัดของภูเขามีพื้นที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร (37,500 ไร่) มีลักษณะคล้ายรูใบบอนหรือรูปหัวใจเมื่อมองจากด้านบน มีส่วนปลายใบอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และส่วนเว้าด้านในอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่ราบบนเขาประกอบด้วยเนินเตี้ยๆ ยอดที่สูงที่สุดอยู่ที่บริเวณ คอกเมย สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,316 เมตร สภาพพื้นที่ราบบนยอดภูกระดึงมีส่วนสูงอยู่ทางด้านตะวันตกและตะวันออกเฉียงใต้ และจะค่อยๆลาดเทลงมาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้ลำธารสายต่างๆบนภูเขาไหลไปรวมกันทางด้านนี้ กลายเป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำพอง
ภูกระดึงเกิดขึ้นในมหายุคมีโซโซอิก มีลักษณะโครงสร้างทางธรณีเป็นหินในชุดโคราช ประกอบด้วยชั้นหิน: หมวดหินภูพานเป็นหินชั้นที่มีอายุน้อยที่สุดอยู่ชั้นบนสุดของโครงสร้างภูกระดึง พบทั่วไปบนหลังแปหรือที่ระดับความสูงตั้งแต่ 990 เมตรขึ้นไป หมวดหินเสาขัวพบตั้งแต่ระดับความสูง 600 เมตรขึ้นไป หมวดหินพระวิหารพบในระดับความสูง 400–600 เมตรและ หมวดหินภูกระดึงเป็นหินชั้นฐานของโครงสร้างภูกระดึง
ภูมิอากาศ
อุทยานแห่งชาติภูกระดึงมีภูมิอากาศบริเวณพื้นราบรอบเชิงเขาเหมือนกับบริเวณอื่นๆในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน-ตุลาคม ฝนตกชุกที่สุดระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 26 °C อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ในเดือนมกราคม และอุณหภูมิสูงสุดอยู่ในเดือนเมษายน ปริมาณหยาดน้ำฟ้า 1,242 มิลลิเมตรต่อปี ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 72%
สภาพอากาศบนยอดภูกระดึง มีปริมาณหยาดน้ำฟ้าเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของปริมาณหยาดน้ำฟ้าบนที่ราบเชิงเขา สาเหตุมาจากอิทธิพลของเมฆและหมอกที่ปกคลุมยอดเขา ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 90% อุณหภูมิเฉลี่ย 19.7 °C ในฤดูหนาวช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม มีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ระหว่าง 0-10 °C อุณหภูมิสูงสุดอยู่ระหว่าง 21-24 °C ส่วนในฤดูร้อนระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ระหว่าง 12-19 °C อุณหภูมิสูงสุดอยู่ระหว่าง 23-30 °C อากาศบนยอดภูกระดึงมักจะแปรปรวน มีเมฆหมอกลอยต่ำปกคลุมบ่อยครั้ง อากาศจึงค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปี
นิเวศวิทยา
สัตว์ป่า
ภูกระดึงได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างชุกชุม เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศประกอบไปด้วยป่าไม้ ทุ่งหญ้าและลำธาร ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ จากการสำรวจพบสัตว์บกมีกระดูกสันหลังรวม 266 ชนิด แบ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 36 ชนิด เช่น เก้ง กวางป่า หมูป่า ลิงกัง ลิงลม บ่าง กระรอก กระแต หนูหริ่งนาหางยาว ตุ่น เม่นหางพวง พังพอน และ อีเห็น เป็นต้น ในจำนวนนี้เป็นสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ 4 ชนิด คือ เลียงผา ช้างป่า เสือดาว และเสือโคร่ง สัตว์ปีกจำนวน 171 ชนิด เช่น เหยี่ยวรุ้ง นกเขาเปล้า นกเขาใหญ่ นกกระปูดใหญ่ นกเค้ากู่ นกตะขาบทุ่ง นกโพระดกคอสีฟ้า นกตีทอง นกหัวขวานสามนิ้วหลังทอง นกนางแอ่นสะโพกแดง นกเด้าดินสวน นกอุ้มบาตร์ นกขี้เถ้าใหญ่ นกกระทาทุ่ง นกพญาไฟใหญ่ นกกางเขนดง นกจาบดินอกลาย และ นกขมิ้นดงเป็นต้น สัตว์เลื้อยคลาน 39 ชนิดเช่น ตุ๊กแก จิ้งจกหางแบนเล็ก กิ้งก่าสวน จิ้งเหลนบ้าน เต่าเหลือง งูทางมะพร้าว งูลายสอบ้าน งูจงอาง งูเห่า และงูเขียวหางไหม้เป็นต้น มี 1 ชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์ คือ เต่าเดือย นอกจากนี้ยังพบเต่าชนิดหนึ่งซึ่งหาได้ยาก คือ เต่าปูลู หรือ “เต่าหาง” เป็นเต่าที่หางยาวอาศัยอยู่ตามลำธารในป่าเขาระดับสูงของประเทศไทย กัมพูชา และ ลาว และสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกจำนวนมาก เช่น อึ่งอี๊ดหลังลาย เขียดหนอง คางคก กบหูใหญ่ และ ปาดแคระเป็นต้น
สัตว์ป่าที่สามารถพบเห็นได้บ่อยเมื่อขึ้นไปถึงยอดภูคือกวาง เนื่องจากมีกลุ่มกวางจำนวนหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ของอุทยานฯได้เลี้ยงเอาไว้ ทำให้กวางกลุ่มนี้ไม่วิ่งหนีเมื่อพบเห็นคน กวางตัวแรกที่เจ้าหน้าที่ได้เลี้ยงเอาไว้ชื่อ คำหล้า เป็นกวางตัวเมีย ตัวที่สองเป็นตัวผู้ชื่อ คัมภีร์ นอกจากนี้ยังมีหมูป่าซึ่งเคยพบตัวในบริเวณป่าปิด แต่ปัจจุบันมีกระจายอยู่ทั่วไปแม้ในส่วนลานกางเต็นท์เมื่อยามมีนักท่องเที่ยวไม่มาก และหมาใน เดิมจะอยู่ในส่วนป่าสนด้านบน หากินกันเป็นฝูงใหญ่ แต่ปัจจุบันเข้ามาหากินใกล้บริเวณที่ทำการมากขึ้นสามารถพบเห็นได้บริเวณร้านค้าที่ทำการด้วย
พืชพรรณ
หม้อข้าวหม้อแกงลิงที่พบบริเวณน้ำตกบนภูกระดึง
ภูกระดึงเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดป่าหนึ่งในประเทศไทย มีสังคมพืชหลากหลายสามารถแบ่งได้ตามความแตกต่างของความสูง ภูมิอากาศ สภาพดิน-หิน และชีวปัจจัย จากที่ราบเชิงเขาถึงระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 600 เมตรจะเป็นป่าเต็งรังคิดเป็น 8% ของพื้นที่ มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ เช่น เต็ง รังเหียง พลวง กราด รกฟ้า เป็นต้น พืชพื้นล่างประกอบด้วย หญ้าเพ็ก ขึ้นเป็นกอหนาแน่นแทรกด้วยไม้พุ่มและพืชล้มลุก นอกจากนี้จากพื้นที่ราบเชิงเขาและที่ลาดชันตามไหล่เขารอบภู จนถึงระดับความสูง 950 เมตรจะเป็นป่าเบญจพรรณหรือป่าผลัดใบผสมคิดเป็น 67 % ของพื้นที่ มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญเช่น แดง ประดู่ป่า กระบก ตะแบกเลือด ยมหิน เป็นต้น พืชพื้นล่างประกอบด้วยหญ้า ไผ่ ไม้พุ่ม ไม้เถา พืชล้มลุก และพืชกาฝากและอิงอาศัย
ป่าดิบแล้งพบตามฝั่งลำธารของหุบเขาที่ชุ่มชื้นทางทิศตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศตะวันตก ตั้งแต่เชิงเขาจนถึงระดับความสูง 950 เมตรคิดเป็น 5 % ของพื้นที่[4] มีพันธุ์ไม้สำคัญ เช่น ก่อ ตะเคียนทอง ยางแดง ยมหอม เป็นต้น พืชพื้นล่างแน่น เป็นพวกไม้พุ่ม ไม้เถา และ พืชล้มลุก เมื่อสูงจากระดับ 1,000 เมตรขึ้นไปจะเป็นป่าดิบเขาพบในทิศเหนือและทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ เช่น ก่วมแดง ทะโล้ สนสามพันปี พะอง จำปีป่า เป็นต้น พืชพื้นล่างประกอบด้วยไม้พุ่มและไม้เถา ตามหน้าผาริมขอบภูพบปาล์มต้นสูง เช่น ค้อดอย
ที่ความสูงเกิน 1,000 เมตรขึ้นไปจะเป็น ป่าดิบเขาพบเฉพาะในพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,000 เมตรขึ้นไปคิดเป็น 9% ของพื้นที่อุทยาน ป่าละเมาะเขาจัดอยู่ในประเภทป่าไม่ผลัดใบ พบเฉพาะบนที่ราบยอดภูกระดึงที่ระดับความสูงระหว่าง 1,200–1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1 %
ป่าสนเขาจะพบเฉพาะบนที่ราบยอดภูที่ระดับความสูงประมาณ 1,200-1,350 เมตรคิดเป็น 10 % ของพื้นที่ มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ เช่น สนสองใบ ก่อเตี้ย ทะโล้ สารภีดอย เป็นต้น พืชพื้นล่างประกอบด้วยไม้พุ่มและพืชล้มลุก ตามลานหินมีพืชชั้นต่ำพวกไลเคนประเภทแนบกับหินเป็นแผ่น และประเภทเป็นฟองเรียก ฟองหิน ปกคลุมทั่วไป นอกจากนี้จะพบเอื้องคำหิน ม้าวิ่ง และเขากวาง เป็นกอหนาแน่น บนพื้นดินที่ชุ่มแฉะพบมอสส์จำพวกข้าวตอกฤๅษีหลายชนิดขึ้นทับถมแน่น คล้ายผืนพรม บางแห่งมีพืชล้มลุกขนาดเล็กหลายชนิดขึ้นปะปนกันแน่น เช่น กระดุมเงิน สาหร่ายข้าวเหนียว ดุสิตา และหญ้าข้าวก่ำ
นอกจากนี้ยังมีพรรณพืชที่สำคัญซึ่งเป็นพืชถิ่นเดียวของภูกระดึงจำนวน 11 ชนิด เช่น ข้าวก่ำผา หญ้าระรื่น และ ซ้อ เป็นต้น
เส้นทางขึ้นไปยังยอดเขาภูกระดึง
- เส้นทางขึ้นที่อำเภอภูกระดึง: เป็นเส้นทางเก่าแก่และได้รับความนิยมมากที่สุด นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเขาในเส้นทางนี้ได้ที่อำเภอภูกระดึง ณ ที่ทำการอุทยาน ในเส้นทางขึ้นจะมีบริเวณที่พักและร้านอาหารหลายช่วง มีระยะทาง 5.5 กม.จากที่ทำการถึงหลังแป และจากหลังแปถึงที่พักประมาณ 3.6 กม.
- เส้นทางขึ้นที่อำเภอน้ำหนาว: นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นไปยังยอดเขาภูกระดึงได้ที่บ้านฟองใต้อำเภอน้ำหนาว ซึ่งเป็นเส้นทางขึ้นเขาเส้นทางใหม่ โดยจะขึ้นไปที่ผาหล่มสักโดยตรง มีระยะมีระยะทาง 5.2 กิโลเมตรจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลย.5 (หนองผักบุ้ง) ถึงผาหล่มสัก
เส้นทางท่องเที่ยวบนยอดเขาภูกระดึง
เส้นทางท่องเที่ยวบนยอดเขาภูกระดึงแบ่งออกได้เป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือบริเวณท่องเที่ยวปกติ และบริเวณป่าปิด โดยบริเวณแหล่งท่องเที่ยวปกติก็จะแบ่งได้เป็นสองเส้นทางคือ เส้นทางน้ำตก และ เส้นทางเลียบผา ส่วนบริเวณป่าปิดก็จะแบ่งได้เป็น เส้นทางน้ำตกขุนพอง และ เส้นทางผาส่องโลก
เส้นทางน้ำตกจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญได้แก่ น้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโผนพบ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำใหญ่ สระแก้ว น้ำตกถ้ำสอใต้ สระอโนดาด น้ำตกธารสวรรค์ และ พระพุทธเมตตา เส้นทางเลียบผาจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญได้แก่ พระแก้ว ผานกแอ่น ผาหมากดูก ผาจำศีล ผานาน้อย ผาเหยียบเมฆ ผาแดง และผาหล่มสัก เส้นทางน้ำตกขุนพองจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญได้แก่น้ำตกขุนพอง และเส้นทางผาส่องโลกจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญได้แก่ น้ำตกผาฟ้าผ่า โหล่มฟ้าโลมดิน ผาส่องโลก โหล่นเจดีย์ โหล่นถ้ำพระ และ แง่งทิดหา
จุดดูพระอาทิตย์ขึ้นสามารถดูได้ที่ผานกแอ่นเพียงที่เดียวมีระยะทางห่างที่พักเพียง 2 กม. สำหรับจุดดูพระอาทิตย์ตกสามารถชมได้ที่ผาหมากดูกซึ่งใกล้ที่สุดห่างจากที่พักเพียง 2 กม. และผาหล่มสักซึ่งเป็นจุดที่นิยมมากที่สุด
การเดินทาง
รถยนต์
- เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้าย ภูเรือ และอำเภอเมืองเลย เลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 (เลย-ขอนแก่น) และเลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
- ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี นครราชสีมา จนถึงจังหวัดขอนแก่นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูผาม่าน และตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
- เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 201 ผ่านจังหวัดชัยภูมิ อำเภอภูเขียว แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ จากนั้นเดินทางเช่นเดียวกับเส้นทางที่ 2
รถทัวร์
- รถทัวร์สายกรุงเทพ-เมืองเลยลงรถที่ผานกเค้า หรือสถานีขนส่งอำเภอภูกระดึงแล้วต่อรถสองแถวเพื่อเดินทางไปยังที่ทำการอุทยาน มีบริษัทให้บริการได้แก่บริษัท ขนส่งจำกัด แอร์เมืองเลย ภูกระดึงทัวร์ ขอนแก่นทัวร์ ศิขรินทร์ทัวร์ และชุมแพทัวร์
- รถโดยสารระหว่างจังหวัดที่ผ่านอำเภอภูกระดึงคือ สายขอนแก่น-เมืองเลย และบริษัทนครชัยขนส่ง สาย เลย-พัทยา-ระยอง และ สายนครราชสีมา-เชียงคาน ลงรถที่ผานกเค้า หรือสถานีขนส่งอำเภอภูกระดึงแล้วต่อรถสองแถวเพื่อเดินทางไปยังที่ทำการอุทยานเช่นเดียวกัน
ที่พัก
| โซนที่พัก-บริการ |
|---|
| บริเวณ | โซนที่พัก-บริการ | คำอธิบาย |
|---|---|---|
| โซนที่ 1 | บ้านภูกระดึง 101-105 | บ้านพักเดี่ยว โซนบนยอดภูกระดึง |
| โซนที่ 1 | บ้านภูกระดึง 106-109 | บ้านพักเดี่ยว โซนบนยอดภูกระดึง |
| โซนที่ 1 | บ้านภูกระดึง 110/1-5 | บ้านพักเรือนแถว โซนบนยอดภูกระดึง |
| โซนที่ 1 | บ้านภูกระดึง 111/1-4 | บ้านพักเรือนแถว โซนบนยอดภูกระดึง |
| โซนที่ 1 | บ้านภูกระดึง 112-113, 115 | บ้านพักเดี่ยว โซนบนยอดภูกระดึง |
| โซนที่ 1 | บ้านภูกระดึง 116-118 | บ้านพักเดี่ยว โซนบนยอดภูกระดึง |
| โซนที่ 2 | บ้านภูกระดึง 201/1-4 | บ้านพักเรือนแถว โซนที่ทำการด้านล่างก่อนขึ้นภูกระดึง |
| |||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| บริเวณ | ชื่อที่พัก-บริการ | ห้องนอน | ห้องน้ำ | คน/หลัง | ราคา/คืน | สิ่งอำนวยความสะดวก | |||
| โซนที่ 1 | 1 | ภูกระดึง 103 (กุหลาบขาว) | 3 | 1 | 6 | 1,800 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 1 | 2 | ภูกระดึง 104 (เสลี่ยมดง) | 2 | 1 | 8 | 2,400 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 1 | 3 | ภูกระดึง 105 (อัมพวา) | 2 | 1 | 8 | 2,400 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 1 | 4 | ภูกระดึง 106 (สุพรรณิการ์) | 2 | 1 | 8 | 2,400 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 1 | 5 | ภูกระดึง 107 (ทรงบาดาล) | 2 | 1 | 8 | 2,400 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 1 | 6 | ภูกระดึง 108 (สายน้ำผึ้ง) | 2 | 1 | 8 | 2,400 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 1 | 7 | ภูกระดึง 109 (ลำดวนดง) | 2 | 1 | 8 | 2,400 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 1 | 8 | ภูกระดึง 110/1 (เทียนน้ำ) | 1 | 0 | 6 | 900 | มีเครื่องนอน, ห้องน้ำรวม | ||
| โซนที่ 1 | 9 | ภูกระดึง 110/2 (เทียนน้ำ) | 1 | 0 | 6 | 900 | มีเครื่องนอน, ห้องน้ำรวม | ||
| โซนที่ 1 | 10 | ภูกระดึง 110/3 (เทียนน้ำ) | 1 | 0 | 6 | 900 | มีเครื่องนอน, ห้องน้ำรวม | ||
| โซนที่ 1 | 11 | ภูกระดึง 110/4 (เทียนน้ำ) | 1 | 0 | 6 | 900 | มีเครื่องนอน, ห้องน้ำรวม | ||
| โซนที่ 1 | 12 | ภูกระดึง 110/5 (เทียนน้ำ) | 1 | 0 | 6 | 900 | มีเครื่องนอน, ห้องน้ำรวม | ||
| โซนที่ 1 | 13 | ภูกระดึง 111/1 (หยาดน้ำค้าง) | 1 | 1 | 10 | 2,000 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 1 | 14 | ภูกระดึง 111/2 (หยาดน้ำค้าง) | 1 | 1 | 10 | 2,000 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 1 | 15 | ภูกระดึง 111/3 (หยาดน้ำค้าง) | 1 | 1 | 10 | 2,000 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 1 | 16 | ภูกระดึง 111/4 (หยาดน้ำค้าง) | 1 | 1 | 10 | 2,000 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 1 | 17 | ภูกระดึง 113 (สำเภาเงิน) | 3 | 2 | 12 | 3,600 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 1 | 18 | ภูกระดึง 115 (สนทราย) | 3 | 2 | 12 | 3,600 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 1 | 19 | ภูกระดึง 116 (นาคราช) | 3 | 2 | 12 | 3,600 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 1 | 20 | ภูกระดึง 117 (เอพริล 1) | 2 | 2 | 4 | 1,600 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 1 | 21 | ภูกระดึง 118 (เอพริล 2) | 2 | 2 | 4 | 1,600 | มีเครื่องนอน | ||
| โซนที่ 2 | 22 | ภูกระดึง 201/1 (ผกากรอง) | 1 | 1 | 4 | 1,200 | มีเครื่องนอน, เครื่องทำน้ำอุ่นที่พักอยู่ด้านล่างก่อนขึ้นภูกระดึง | ||
| โซนที่ 2 | 23 | ภูกระดึง 201/2 (ผกากรอง) | 1 | 1 | 4 | 1,200 | มีเครื่องนอน, เครื่องทำน้ำอุ่นที่พักอยู่ด้านล่างก่อนขึ้นภูกระดึง | ||
| โซนที่ 2 | 24 | ภูกระดึง 201/3 (ผกากรอง) | 1 | 1 | 4 | 1,200 | มีเครื่องนอน, เครื่องทำน้ำอุ่นที่พักอยู่ด้านล่างก่อนขึ้นภูกระดึง | ||
| รวมเป็น | 40 | 24 | 180 | 46,300 | |||||
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น